เสียงฝนกระหน่ำยามนี้ ดังไม่แพ้เสียงพายุหิมะวันนั้น
...
ในห้องโถงโรงแรม เรานั่งอยู่ด้วยกันข้างเตาผิงที่ไฟลุกโชน
กลิ่นกาแฟหอมฟุ้งอบอวล
นี่มันเป็นเวลาหลังอาหารดึกดื่น แต่หลายคนยังต้องการความอุ่นจากถ้วยกาแฟ
คืนนี้ช่างคับคั่ง ราวกับผู้คนไม่อยากหลับใหล
มันเป็นหิมะหลงฤดูบ้าคลั่ง คนที่นี่คุ้นเคยกับมันดี
แต่คนผ่านทางจากแผ่นดินร้อนตื่นกลัว
เราอาจไม่ได้เดินทางต่อ หรือถ้าโชคร้ายกว่านั้น...อาจติกแหง็กอยู่ที่นี่หลายวัน
แต่นั่นมิใช่เหตุผลที่เรามานั่งอยู่ด้วยกัน
มันมีอะไรมากกว่านั้น
เป็นแรงดึงดูดที่ไม่อาจอธิบายของสายหิมะที่พรูพรั่งอยู่ข้างนอกในเสียงลมหวู่หวิวกรีดกรอน่าหวั่นหวาด
เราจิบไวน์ช้าๆ ไม่อยากให้มันหมดแก้ว
เพื่อจะต้องอำลาจากกัน ทั้งที่รู้... ค่ำคืนนี้ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะผ่านพ้น
ถ้อยคำมากมายหลั่งไหลอยู่ใต้ริมฝีปากที่ปิดสนิท
ในที่สุด ก็ถึงจิบสุดท้ายของเหล้าองุ่น
เฝื่อนฝาดบาดคอ แต่หอมกรุ่นละมุนใจ ตรึงอยู่ในความรู้สึกล้ำลึก
เราลุกขึ้น ลาจากด้วยความเงียบ
เดินหันหลังให้กันไปคนละปีกตึก
เสียงลมพายุเบาลงแล้ว
แต่ปุยขาวยังพร่างพราวจากฟ้า
...
#เรื่องสั้น ๒๐ บรรทัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น