วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ผู้ชายนุ่งกระโปรง... พ่อพันธุ์ชั้นดี






ไปงานแต่งงานญาติเพื่อสนิทที่เมืองกลาสโกว ประเทศสก็อตแลนด์เมื่อหลายปีก่อน เห็นผู้ชายนุ่งกระโปรงกันเต็มงาน
รู้สึกงามหูงามตาอย่างมากมาย
กระโปรงลายสก็อตหรือ Kilts เป็นเครื่องแต่งตัวของหนุ่มสก็อตติชในงานพิธีการต่างๆ รวมทั้งเป็นเครื่องแบบบังคับของมัคคุเทศก์ท้องถิ่นกับคนเป่าปี่สก็อต(Bag pipe) ถือว่าเป็นชุดประจำชาติที่คนสก็อตภาคภูมิ ใจยิ่งนัก และจะหยิบมาใส่ในทุกโอกาสสำคัญ อวดหล่อกันเต็มที่
            ว่ากันว่าคนสก็อตนุ่งกระโปรงแบบนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ จนกระทั่งเสียเอกราชให้อังกฤษในปี ค.ศ.1707 ก็ยังไม่ยอมทิ้งเอกลักษณ์นี้ แต่การตั้งชื่อลวดลายตาหมากรุกตามชื่อตระกูลนั้นเพิ่งจะมาได้รับความนิยมเอาในศตวรรษที่ 19 ในสมัยวิคตอเรียนี่เอง
ลวดลายสีสันตาหมากรุกแต่ละแบบนั้นเป็นลายเฉพาะของแต่ละตระกูลที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ต้นตระกูลคนแรก ไม่ว่าสาแหรกตระกูลจะจะแตกแขนงออกไปมากมายเพียงไหน ลายผ้านั้นก็จะยังอยู่ติดตัวทายาทตลอดไป บางตระกูลมีลายผ้ามาก 3-4 ลาย บางตระกูลอาจจะมีเพียงลายเดียวขึ้นอยู่กับต้นทางที่มา


            ตั้งแต่อดีตจนบัดนี้ บรรพบุรุษต้นตระกูลชาวสก็อตประมาณ 5,000 ตระกูล(clans) จดทะเบียนลายผ้าตาหมากรุกเอาไว้มากถึง 7,000 แบบ และมีสีสันแตกต่างกันออกไปถึง 30,000 ลวดลาย กลายเป็นเอกลักษณ์ที่คนรู้จักไปทั่วโลกเช่นเดียวกับสก็อตวิสกี้ 
            หนุ่มสก็อตจะนิยมสวมกระโปรงในหลายโอกาส ตั้งแต่ใส่เป็นชุดลูกเสือ ไปล่าสัตว์ ไปงานเต้นรำ งานแต่งงาน และในอดีตเคยใช้เป็นชุดเครื่องแบบของกองทหารอังกฤษด้วย ซึ่งเมื่อก่อนแต่ละคนจะต้องใส่ผ้าของตระกูลตัวเองเท่านั้น แต่ปัจจุบันเลือกใส่ตามความชอบได้โดยไม่มีเงื่อนไข มีแต่คนแถบภาคเหนือเท่านั้นที่ยังเคร่งครัดรักษาธรรมเนียมสวมเฉพาะผ้าตาหมากรุกของตัวเองอยู่ 
            ส่วนประกอบของเครื่องแต่งกายประจำชาติชาวสก็อตนี้ นอกจากกระโปรงลายสก็อตซึ่งด้านหน้าเป็นแผ่นเรียบและด้านหลังจับจีบเป็นพลีทแล้ว ยังจะต้องมี เข็มขัด แจ็คเก็ต สปอร์รัน(
Sporran-กระเป๋าผูกเอวห้อยไว้ด้านหน้าทำจากหนังสัตว์ตกแต่งลวดลายและเครื่องประดับสววยงามตามแต่โอกาสการสวมใส่) เข็มกลัด ถุงเท้ายาว รองเท้าหุ้มส้นชนิดพื้นหนา และมีดพกสเกียน ดุห์ (Sgian Dubh) อาวุธประจำกายที่เสียบไว้กับถุงเท้าด้วยถึงจะสมบูรณ์แบบ


            ความยาวของกระโปรงจะอยู่ที่ระดับหัวเข่า ไม่สั้นหรือยาวไปกว่านี้ เป็นกระโปรงผ้าวูลที่ทอจากขน สัตว์หยาบๆ โดยผ้าตาสก็อตโดยจะมีน้ำหนักผ้าประมาณหลาละ 1 ออนซ์เป็นอย่างน่อย แต่ก็มีให้เลือกทั้งแบบน้ำหนักมากและน้ำหนักเบาตั้งแต่หนัก18-22 ออนซ์ หรือเบาๆแค่ 10-11 ออนซ์ตามแต่ลักษณะการใช้งาน ส่วนใหญ่แล้วน้ำหนักของผ้าที่กำลังสวมสบายอยู่ที่ประมาณ 13-16 ออนซ์เพราะถ้าเบาเกินไปผ้าก็จะไม่ทิ้งตัว แต่ก็เหมาะสำหรับใส่ในหน้าร้อนหรือในกิจกรรมที่ต้องการความคล่องตัวสูง หรือต้องการให้เห็นความสวยงามเวลาพลีทคลี่บานตามจังหวะการเต้นรำแบบไฮแลนด์ 
             กระโปรงแต่ละตัวสำหรับผู้ใหญ่ตามมาตรฐานจะใช้ผ้าประมาณ 6–8 หลา หรืออาจจะยาวกว่านี้ขึ้นอยู่กับแบบว่าจีบลึกหรือตื้นและขนาดลำตัวผู้สวมใส่ และการทอจะเป็นแบบเก็บริมผ้าเรียบร้อยในตัวไม่ต้องมาเย็บสอยกันอีก


ทุกวันนี้ยังมีการออกแบบลวดลายใหม่ๆของผ้าตาสก็อตอยู่เสมอ เป็นลายผ้าประจำเมืองบ้าง  ประจำสถาบันการศึกษา ประจำทีมกีฬาแต่ละประเภท เป็นต้น แต่ยังคงรักษาวิธีการย้อมสีธรรมชาติตามแบบดั้งเดิมเอาไว้ ซึ่งแรกเริ่มมี 3 สีหลักๆ คือ แดง เขียว น้ำเงิน และต่อมาสีเหล่านี้ก็ออกลูกออกหลานเป็นโทนอื่นๆ ต่างกันไปนับร้อยนับพันเฉดสี แต่กลุ่มสีที่นิยมยังเป็นสีแบบเอิร์ธโทนหม่นๆ
            ลายผ้าประจำชาติของชาวสก็อตนี้ อาจจะบ่งบอกถิ่นที่อยู่ของคนสวมใส่ รวมทั้งสายตะกูลโคตรเหง้าเหล่ากอได้  แต่ก็ไม่สามารถบ่งบอกถึงฐานะของผู้สวมใส่ได้ เพราะทั้งไพร่และเจ้าก็จะใช้ผ้าวูลลักษณะเดียวกันหมด ผิดกับผ้าทอของไทยที่แบ่งยศศักดิ์ของผู้ใช้ตามเนื้อผ้า เราจึงมีผ้าทอสำหรับราชสำนักและชาวบ้านแยกกันออกไป
            มีเกร็ดเล่ากันสนุกๆว่าสปอร์รันที่ห้อยตรงหน้าขานั้นคนยุโรปใช้กันมาตั้งแต่ยุคกลางแล้วเพราะเสื้อผ้าสมัยก่อนยังไม่มีกระเป๋าในตัว ต้องใช้หนังสัตว์เย็บเป็นถุงผูกติดไว้กับเอวสำหรับใส่ของใช้ส่วนตัวที่สำคัญ
และประโยชน์อีกอย่างก็คือมันทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันจุดสำคัญของหนุ่มๆได้ด้วยเพราะสมัยโน้นเขายังไม่มีกางเกงในนุ่งกัน !
แต่...แต่ว่า อันนี้เป็นเรื่องดีมากๆนะคะ และอย่าเพิ่งอมยิ้มค่ะ
ล่าสุดเพิ่งมีผลการวิจัยชิ้นหนึ่งจากสก็อตแลนด์บอกว่า การใส่คิลท์ทำให้สเปิร์มของคุณผู้ชายแข็งแรงดีมาก
แปลว่าคุณผู้ชายที่ใส่คิลท์แบบสก็อตนี้เป็นพ่อพันธุ์ที่ดีสุดๆ

งานวิจัยนี้เป็นของ ดร.เออร์วิน คอมแพนจ์ ที่ตีพิมพ์ในวารสารสกอตติช เมดิคัล เจอนัล เผยถึงเหตุผลที่ให้ผู้ชายซึ่งนุ่งคิลท์กลายเป็นหนุ่มที่มีสมรรถภาพทางเพศดีเยี่ยม สเปิร์มแข็งแรงสุดๆ ออกศึกเมื่อไหร่ รับรองได้ว่าสามารถเสกเบบี๋เข้าท้องคุณผู้หญิงได้ค่อนข้างมาก
คำอธิบายคือ การนุ่งคิลท์ทำให้อุณหภูมิของถุงอัณฑะลดลงเป็นผลดียิ่งต่อการผลิตสเปิร์มทั้งในแง่ของปริมาณและคุณภาพ เพราะการที่หนุ่มๆไม่ใส่กางเกงชั้นในจะทำให้รู้สึกโปร่งโล่งสบาย ไม่รัดรึงและไม่ร้อน จึงทำให้อุณหภูมิภายในถุงอัณฑะตกลงมาอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุดในการผลิตสเปิร์ม คือต่ำกว่าแณหภูมิร่างกายราว 3 องศาเซลเซียส  
          
  
           ก่อนหน้านี้มีผลการศึกษาวิจัยมาตั้งแต่ยุค 80 แล้วว่าการใส่กางเกงรัดแน่นมีผลต่อสมรรถภาพในการสืบพันธุ์ของคุณผู้ชายโดยตรง เพราะจะทำให้อุณหภูมิภายใต้ร่มผ้าสูงขึ้น 3.5 องศา เป็นตัวการทำให้ อัณฑะผลิตสเปิร์มได้ลดลง แถมของที่ผลิตได้อาจไม่แข็งแรงอีกด้วย
            คุณผู้ชายบ้านไหนมีลูกยาก...ลองเปลี่ยนมานุ่งกระโปรง หรือไม่ก็ใส่กางเกงหลวมๆ แล้วโยนกางเกงชั้นในทิ้งดูไหมคะ...เผื่อจะได้ผล  


            .....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น