วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2558

โอซาก้าใต้ฝ่าเท้า(๒)


แบ็กแพ็กเกอร์วัยทอง
...
คุณนิด ผู้จัดการเรื่องหาที่พัก ขอบคุณนะคะ


ระหว่างที่พวกเราเคว้งคว้างอยู่กลางอากาศคุณนิด @Suchada Lee ก็ยื่นมือน้อยๆของนางฟ้ามาให้เกาะ เพราะเธอสามารถเสาะหาที่พักจากเว็บไซต์ airbnb.com มาได้ในที่สุด
ใครที่เคยจองที่พักจากเว็บไซต์นี้ก็ย่อมจะรู้ว่าห้องพักมักจะไม่ใช่โรงแรมแต่เป็นอพาร์ตเมนต์เล็กๆ หรือห้องส่วนเกินในบ้านที่เจ้าของอยากทำให้เกิดรายได้ก็เลยแบ่งให้แขกเข้าพักเป็นครั้งคราว มีทั้งแบบที่เป็นห้องในบ้านอยู่ร่วมกันกับเจ้าของเลย และแบบอพาร์ตเมนต์ที่ตั้งใจจัดไว้ให้เช่าแบบชั่วคราวหรือรายวัน
ปัญหาของเราคืออพาร์ตเมนต์ชุดแรกแรกที่จองได้ในย่านนัมบะมีห้องว่างแค่ ๓ ห้อง พักได้ไม่เกิน ๙ คน(ที่จริงแต่ละห้องเล็กมากเหมาะที่จะพักแค่ ๒ คนเท่านั้น แต่เจ้าของเห็นใจเราก็เลยยอมให้ยัดเพิ่มเข้าไปเป็นห้องละ ๓ ถึงกระนั้นก็ต้องแยกอีก ๓ ชีวิตไปนอนที่อื่น
ปรากฏว่าโชคดีมากที่ได้ห้องพักย่านใกล้เคียงกันไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดิน นิปปอนบาชิ” (Nipponbashi) เท่าใดนักและเดินไปอีกไม่ไกลก็ถึงสถานีนัมบะ เพียงแต่ต้องแยกทิศเดินจากกันไปคนละทางเท่านั้นเอง
ห้องนี้ถือว่าหรูหรามากสำหรับคนแบกเป้

airbnb.com ให้เราจ่ายเงินล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์และ Host หรือเจ้าของห้องจะเป็นผู้ติดต่อเราทางอีเมลเพื่อบอกรายละเอียดการเดินทางไปที่พัก โดยสามารถติดต่อผ่านหลายช่องทาง บางคนมีเฟซบุ๊คและไลน์ด้วย รวมทั้งทางโทรศัพท์ ผู้เช่าจะได้เห็นภาพห้องพักที่ Host ส่งมาให้และรู้ว่าภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง เก่าหรือใหม่แค่ไหน เพื่อให้เราเตรียมตัวเตรียมใจล่วงหน้าว่าต้องไปอยู่อาศัยในสภาพอย่างไรในช่วงเวลาสั้นๆนั้น และบอกข้อมูลคร่าวๆว่าการคมนาคมจากที่พักไปย่านสำคัญต่างๆต้องเดินทางอย่างไร
หน้าตาของ ๓ ห้องแรกที่จองได้ ปลายฟูกคือครัวกระจิ๋วหลิวแบบนี้ ประมาณว่าลุกจากที่นอนก็เจออ่างล้างจานเลย

สรุปแล้วที่พักของเราสามห้องแรกเป็นอพาร์ตเมนต์รังหนูแบบที่คนไปเที่ยวญี่ปุ่นประจำจะเข้าใจดี ส่วนอีกห้องเป็นอพาร์ตเมนต์ใหม่หน่อยขนาดห้องใหญ่กว่านิดหน่อย และแยกส่วนครัวเล็กจ้อยไว้ต่างหากด้วยประตูกั้น ทำให้พื้นที่นอนโล่งขึ้น นอนสามคนไม่เบียดกันนัก มีทั้งเตียงและฟูกวางกับพื้นกว้างพอที่จะนอนดิ้นได้ไม่ตก ถือว่าคุณภาพห้องพักไม่เลวทีเดียวแหละ เฉลี่ยค่าห้องพักสามห้องแรกต่อคนรวมค่าบริการทุกอย่างแล้วคืนละ ๑,๑๐๐ บาท ส่วนอีกห้องแพงกว่านิดหน่อยแต่ไม่เกิน ๑,๕๐๐ บาทต่อคน/คืน
ห้องน้ำจิ๋วของห้องราคาถูก

เราตกลงกันว่าจะอยู่ที่นี่ยาวติดต่อกัน ๖ คืนไปเลย แม้จะไปเที่ยวโกเบและเกียวโตเป็นบางวันก็จะใช้วิธีเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับ เพราะการคมนาคมสะดวก นั่งรถไฟไปแต่ละจุดไม่เกิน ๑ ชั่วโมง และรถไฟญี่ปุ่นแสนจะตรงเวลา แทบไม่พลาดสักวินาทีเดียว จึงไม่จำเป็นต้องลากกระเป๋าย้ายเมืองไปมา เพราะนั่นหมายถึงว่าจะมีภาระต้องหาห้องพักใหม่ถึง ๓ จุดด้วยกันในช่วงฤดูร้อนที่นักท่องเที่ยวเต็มเมืองซึ่งจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากอย่างแรง 
ดังนั้นสิ่งที่ต้องจัดการให้คุ้มค่าที่สุดก็คือเรื่องตั๋วรถไฟซึ่งมีให้เลือกซื้อหลายแบบขึ้นอยู่กับลักษณะการท่องเที่ยวที่ออกแบบเอาไว้ว่าจะไปไหนบ้าง แต่ละแห่งจะไปชมอะไร ที่ไหน ซึ่งพวกนี้ต้องศึกษาข้อมูลกันล่วงหน้าเอาไว้ด้วย

ห้องน้ำของอีกอพาร์ตเมนต์หนึ่ง


เรื่องตั๋วรถไฟญี่ปุ่นสำหรับนักเดินทางต่างชาติในโอซาก้าน่าสนใจที่จะเรียนรู้เอาไว้สำหรับใครที่อยากเที่ยวในปีนี้และปีหน้าเพราะมีโปรโมชั่นที่ราคาถูกมากๆ ถ้าซื้อได้ถูกต้องกับการใช้งานจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อย่างมหาศาล แต่ยังจะไม่เล่าตอนนี้หรอกนะเพราะกลัวจะยาวไป
เอาเป็นว่าเราได้ที่พักแล้วสบายใจได้ แต่ยังมีโจทย์ที่ต้องตอบในเรื่องเวลาปลายทางถึงสนามบินตอน ๕ ทุ่มซึ่งถือว่าดึกมาก แทบจะเป็นเที่ยวบินสุดท้ายของสนามบินคันไซเลยทีเดียว น้องจุ๋มผู้เชี่ยวชาญการท่องโลกด้วยตัวเองมาแล้วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำจึงขอร้องทุกคนว่า เพื่อความคล่องตัวในการออกจากสนามบินหลังผ่านด่านตม.แล้วไม่ควรไปเสียเวลารอรับกระเป๋าอีกเพราะรถไฟเข้าเมืองรออยู่และออกตรงเวลาเป๊ะ ดังนั้นขอให้ทุกคนเดินทางด้วยกระเป๋าเล็กที่ถือติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ น้ำหนักไม่เกินคนละ ๗ กิโลกรัมเท่านั้น!
ห้องราคาแพงมีเครื่องซักผ้าด้วย

เอาล่ะซี พวกเราส่วนใหญ่มีแต่พวกที่เคยเดินทางแบบมีบริการเต็มเพียบแทบจะอุ้มกันไปโน่นมานี่ บัดนี้ต้องมาจำกัดจำเขี่ยแพ็กกระเป๋าที่หนักไม่เกิน ๗ กิโลกรัม นั่นหมายความว่าต้องยัดของใช้จำเป็นทุกสิ่งอย่างลงไปในนี้ให้หมด จะมาเอาเสื้อผ้ามากมายไปเปลี่ยนทุกวันแล้วมีเผื่อเหลือเผื่อขาดอีกสองสามชุดแบบที่เคยชินไม่ได้อีกแล้ว
รองเท้าก็อย่าคิดว่าจะเอาไปเปลี่ยนนะ ต้องทำใจที่จะใส่เสื้อผ้าซ้ำบ้างเน่าบ้าง แม้ที่พักบางห้องจะมีเครื่องซักผ้าให้ แต่ก็อย่าหมายว่าจะมีที่ตากผ้ารับแดดอย่างบ้านเรา ส่วนมากใช้วิธีเอาลมร้อนจากคอมแอร์เป่าเท่านั้นแหละ
นี่ไงแบ็กแพ็กเกอร์สมบูรณ์แบบล่ะ แต่ว่าพวกเรามันมนุษย์ลุง-ป้า ๕๐ อัพกันทุกคนแล้วนะ มีเด็กอ่อนสุดในกลุ่มคือน้องตาก็ปาเข้าไปตั้ง ๔๘
จะไหวไหม...จะไหวไหม?

....
ครัวของห้องราคาแพงก็ดูดีมีสกุล



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น