รู้สึกเหมือนฉันกำลังจูบเขา...ขณะทาบริมฝีปากลงบนรอยเม้มที่ปลายมวน
กระจกกั้นระหว่างเรายังคงอยู่ ใสกระจ่าง
มันติดตามไปทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะในสถานที่มีผู้คนหรือว่างวาย
แม้ในขณะที่เดินเคียงกันไปริมถนน
เราก็ยังต้องดิ้นรนเรียกหาคนอื่นมาสมทบ
การรักษาพื้นที่ว่างไม่ใช่เพียงมารยาท
มันเป็นสิ่งที่เราสองต้องรู้โดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยวาจา
ผู้ชายอายุ
๔๐ ไม่ใช่วัยรุ่นแม้จะเพิ่งเริ่มต้นความสำเร็จ เช่นเดียวกันหญิงสาววัยสามสิบต้นก็ต้องมีวุฒิภาวะพอที่จะรู้ว่าในปรารถนาอันลึกเร้น
เธอทำได้เพียงมองตาและส่งยิ้มให้เขา
ไม่บังอาจแม้จะแตะแค่ปลายนิ้ว
...
ฉันเห็นมือเขาสั่นน้อยๆ
ขณะจุดบุหรี่
เขาเอียงหน้านิดๆ ก้มลงมองเปลวไฟที่เริ่มไหม้ลามปลายมวน
ริมฝีปากที่คาบก้นกรองเผยออย่างระมัดระวังราวกับกลัวว่ามันจะเปื้อนความชื้นเป็นร่องรอย
เขาช่างไม่รู้เสียเลยว่าฉันอยากให้เขาดูดเม้มและสืดควันเขาไปก่อนสักอึกใหญ่ก่อนจะยื่นมาให้
แต่ไม่เป็นไรหรอก
แค่นี้ริมฝีปากเขาก็ประทับรอยบางเบาไว้แล้ว
“มันแรงนะ”
เขาหันมาบอกแล้วมองเลยไปทางอื่น ระริกรื่นในแววตานั้นยังเหมือนเดิม เหมือนจะชิดใกล้แต่ก็คล้ายจะห่างเหิน
เป็นเขาในแบบที่เขาเป็น
แต่ฉันไม่สนใจหรอก
ขอแค่ให้ได้ฝันถึงเขาเท่านั้นก็พอ
ซองบุหรี่กับไฟแช็กวางอยู่บนโต๊ะ
แค่ฉันขอบุหรี่สักมวนแล้วหยิบมันมาจุดก็จบ
เขาอาจไม่คิดอะไรเลยกับการจุดบุหรี่มวนใหม่แล้วยื่นให้ผู้หญิงคนหนึ่ง
แต่สำหรับฉันบุหรี่มวนที่ยื่นมาให้นั้นมันช่างหอมหวานและยวนยั่ว
ความรู้สึกนั้นอ่อนหวาน เจ็บปวด แต่ก็แสนสุข
เราต่างรักษากระจกกั้นอันนี้ไว้
ให้มองเห็นกันทุกหนแห่ง รักษาอย่างดีที่สุดไม่ให้มันแตก
...
ฉันจูบเขาที่ปลายมวน ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ควันบุหรี่ลอยเป็นสายอ้อยอิ่ง
ไม่มีใครอื่นเลยในระเบียงร้านกาแฟแสนงามแห่งนั้น
เราคุยกันเรื่องการงาน สถานที่เที่ยวท่อง
และความฝันที่เราต่างไม่มีกันและกันในนั้น
ไม่อยากขยี้ก้นบุหรี่ทิ้งเลยแต่ปลายก้นกรองเริ่มลามไหม้จนนิ้วคีบผ่าวร้อน
จูบบุหรี่เป็นเช่นนี้เอง
ตอนจบมันไม่อร่อย เพราะร้อนลวกและจำต้องจากลา
...
ฉันมองเถ้าบุหรี่มวนนั้นที่ปนเปอยู่กับบุหรี่ที่สูบแล้วมวนอื่นๆของเขา
เราต่างรู้ว่ามันเป็นยาพิษ...แต่ทำไมเราถึงยอมให้มันอยู่กับเราเสมอ
ทุกครั้งบุหรี่และกระจกจะอยู่กับเรา
ทำหน้าที่สัตย์ซื่อ
และฉันได้จูบเขาเป็นร้อยครั้งแล้วในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ทำไมเขาจะไม่รู้เจตนาของฉัน
“ขออีกตัวได้ไหม?”
เขาขยับตัวจะหยิบซองบุหรี่ในจังหวะที่ฉันขยับขายกขึ้นไขว่ห้างแล้วหัวเข่าไปโดนพื้นโต๊ะข้างใต้จนสะเทือน
ซองบุหรี่เลื่อนไหลมาตรงหน้าหมิ่นเหม่จะตกลงมาที่ตัก
ฉันรีบตะครุบไว้ในจังหวะที่เขาทาบมือลงมาประกบ...อุ่นวาบ
เป็นครั้งแรกที่เราถูกเนื้อต้องตัวกันในดินแดนลี้ลับ
เป็นเรื่องตลกเหลือเชื่อที่คนผ่านโลกมาโชกโชนสองคนไม่อาจหาญกล้าแม้จะแตะปลายนิ้วกัน
ฉันเลื่อนซองบุหรี่ไว้ในอุ้งมือเขา ค่อยๆขยับปลายนิ้วจากลาอ้อยอิ่ง
ระหว่างที่จ้องมองเขาจุดบุหรี่
ฉันเห็นรอยร้าวจุดเล็กๆ ที่มุมหนึ่งของกระจกกั้น อีกไม่นานมันคงแตก
แต่วันนี้...วันนี้ขอจูบบุหรี่อีกสักครั้งนะ
.....
ทดลองเขียนเรื่องสั้น...สั้นๆ ไม่เกิน ๓๐
บรรทัด เรื่องนี้ดาลใจจากเถ้าบุหรี่
สุมิตรา จันทร์เงา
๐๕ ๑๑ ๑๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น