วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ถอดเสื้อให้ “จั๋ง”

 กอจั๋งที่ยังไม่ได้ถอดเสื้อบางส่วนเทียบกับที่ถอดแล้ว

สองเดือนเต็มที่บ้านจมน้ำ เย็นเยียบ อย่างหมองเศร้า ในความลึก 2.50 เมตร ต้นไม้แสนรักนับร้อยชนิดกลายเป็นศพเปื่อยเน่าเฝ้าสุสาน
            มีเพียงไม้ใหญ่บึกบึนอย่าง เสลา ปีบ และมะยม ที่ยืนหยัดฝ่าฟันความหฤโหดของสายน้ำมาได้ ร่วมกับไม้ทนน้ำอย่าง “โมก” ที่รอดชีวิตทุกกอ
            “จั๋ง” ในกระถางเคลือบใบใหญ่สองกระถาง เป็นไม้นอกความคาดหวังว่าจะยังชีวิต แต่เธอก็เหลือร่างพิกลพิการฝ่าข้ามกาลเวลามาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
            ไม้ที่บ้านเป็นไม้กระถางเสียส่วนใหญ่ สภาพที่เห็นภายหลังน้ำลดจึงเป็นร่องรอยหายนะของการสู้รบระหว่างมวลน้ำกับกระถางต้นไม้ที่พยายามจะยื้อยุดตัวเองเอาไว้กับพื้นที่
            กระถางต้นไม้พร้อมซากศพของมันกองเกลื่อนกลาดระเนนระนาดอยู่รอบบ้าน ลามไหลออกมากลิ้งโค่โร่อยู่นอกบ้าน ตามถนน และพื้นที่ว่างรายรอบ
            นึกย้อนกลับไปถึง 6 เดือนที่แล้วกับความมึนงงที่ต้องเก็บกวาดขยะน้ำท่วมเหล่านี้ ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองมีชีวิตผ่านมันมาได้อย่างไร
            เพื่อจะพบว่ารัฐบาลหลับตาข้างหนึ่งเปิดทางให้นักการเมืองท้องถิ่นหากินกับมาตรการเยียวยาเงินช่วยเหลือกันอย่างมูมมาม!!!
            เงินช่วยเหลือ 20,000-30,000 บาทน้อยนัก น้อยยิ่งกว่าน้อยเมื่อเทียบกับความเสียหายแท้จริงหลายแสนหรือนับล้านบาทสำหรับชาวบ้านที่เดือดร้อนหนัก โดนน้ำท่วมขังยาวนานถึงสองสามเดือน โดยเฉพาะกลุ่มที่ถูกโยนขี้ให้เป็น “แก้มลิง” รับน้ำแทนชาวกทม.โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวอย่างชาวปทุมธานี และนนทบุรี รวมทั้งหมู่บ้านเมืองเอกของฉัน
            แต่เงื่อนไขการจ่ายเงินเยียวยาก็แสนจะจุกจิก วุ่นวาย ยุ่งยาก เปิดทางทุกวิธีที่จะให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นหากินกับงบประมาณ ด้วยวิธีฉ้อฉลเอากับชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวหรือไม่มีปัญญาจะทวงถามตามสิทธิ์ที่พึงมีพึงได้
            ตั้งแต่ขั้นตอนกรอกเอกสาร ต้องมีรูปบ้านที่จมอยู่กับน้ำ ถ่ายเลขที่บ้านให้ติดมาด้วย แจงความเสียหายให้ละเอียดยิบ โดยเฉพาะเครื่องมือทำมาหากิน ซึ่งก็เน้นหนักไปที่ “วัตถุที่เป็นเครื่องมือเครื่องจักร” ล้วนๆ
มิได้สนใจเหลียวมองเครื่องมือหากินที่ต้องใช้ในทางปัญญาอย่างพวกหนังสือ หรือต้นไม้ใบหญ้าซึ่งเป็น “ความสุขทางใจ” และแรงบันดาลใจ สำหรับอาชีพนักข่าวนักเขียนแม้แต่น้อย
            รัฐจะเยียวยาให้ก็ต่อเมื่อคอมพิวเตอร์จมน้ำ เครื่องตัดหญ้าสำหรับนักจัดสวนเสียหาย เครื่องอบขนมปังของร้านเบเกอรี่พัง จอบ เสียม แห ลอบ ใหปลาร้า ฯลฯ ของเกษตรกรไหลไปกับน้ำ!
            แล้วยังมีเงื่อนไขย้ำนักย้ำหนาว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะลงพื้นที่ไปสำรวจข้อเท็จจริงด้วยตัวเองอีกครั้ง
          แล้วไง?
            กรอกเอกสารไปตั้งแต่เดือนธันวาคม จนจะถึงวันรับเงินเยียวยาสัปดาห์หน้านี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่หน้าไหนโผล่มาให้เห็นสักคน!
แต่เงินช่วยเหลือที่แจกออกไปบ้างแล้ว พอเป็นข่าวก็รู้ได้ทันทีว่า ล้วนเป็นเรื่องของการเลือก “ให้” กับพรรคพวก เพื่อนฝูง ญาติสนิทมิตรสหายของผู้มีอำนาจกำหนดชะตากรรมผู้คนในชุมชน ในท้องถิ่น
เลือดชั่วทางการเมืองแบบนี้ไหลลามไปทุกถิ่นที่
ข่าวที่ชาวปทุมธานีถูกเรียกไปรับเงินเยียวยา 15 บาท ตบหน้าการจัดสรรงบประมาณก้อนนี้ฉาดใหญ่ เพียงแค่ชาวบ้านคนนั้นร้องเสียงดังขึ้นมาหน่อย เงิน 15 บาทก็ถูกเติมเลข 0 ต่อท้ายเข้าไปทันทีอีก 3 ตัว เป็น 15,000 บาท!
ช่างง่ายดายเหลือเกิน...
มันเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค!
นี่คือเหตุผลกล้วยๆ ตื้นๆที่เอามาอ้างแบบหน้าด้านๆเสมอ
อะไรกันนักหนาคะคุณปู?
เรื่องนี้รัฐบาลไม่จำเป็นต้องใช้สมองส่วนไหนคิดเลย ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าพื้นที่ไหนจมน้ำสาหัสสากรรจ์ บ้านกี่หลังๆ ก็สำรวจบันทุกไว้ในข้อมูลสถิติอยู่แล้ว ทำไมไม่จ่ายให้เท่าๆกันไปเสียเลย จะได้หมดเรื่อง?
ความทุกข์ทางใจของแต่ละคนไม่ว่าจนหรือรวย เอามาชั่งน้ำหนักให้แตกต่างกันไม่ได้หรอกค่ะ
ความทุกข์นี้จะเอามาหารเฉลี่ยเป็นมูลค่าตามเศษสตางค์ความเสียหายทางวัตถุ แบบที่ไชล็อกขอเชือดเนื้ออันโตนิโยมาชำระหนี้ได้หรือ?
....

 สีที่แตกต่าง คือระยะเวลาที่โดนแสงไม่เท่ากัน


ต้นจั๋งที่รอดเงื้อมมือมัจจุราชมาได้เป็น จั๋งญี่ปุ่น อยู่ในกระถางแตกทั้งสองใบ เดิมมันเป็นไม้พุ่มใหญ่ สวยงามที่สุดในบรรดาไม้กระถางทั้งหมด ตั้งเด่นเป็นสง่าชิดกำแพง เป็นทั้งผนังบังสายตาภายนอกและร่มเงารำไรให้กับดงเดหลี ดอกหน้าวัว และบรรดาพลูด่างที่เลื้อยระดะตามพื้นดิน
ตอนที่เก็บกู้บ้าน กอจั๋งเอียงกะเท่เร่พร้อมตายทุกเมื่อ ต้นโทรม ใบหัก ลักษณะเป็นไม้พิกลพิการ
กอหนึ่งแตกหลุดออกจากกระถางทั้งหมด อีกกอเหลือต้นอยู่แค่สองลำ นอกนั้นเป็นต้นอ่อนที่พยายามจะอยู่ให้รอด
ฉันชั่งใจอยู่นานกว่าจะตัดสินใจคืนชีวิตให้สวนและบ้านอีกครั้ง แม้ต้องเสี่ยงกับน้ำในปีนี้อีกก็ได้ นั่นเป็นเพราะฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่กับการรอคอยอนาคตที่ไม่รู้
ฉันอยากอยู่กับวันนี้ อยากตื่นขึ้นมามองเห็นความสวยงามของโลกรอบตัวในวินาทีที่ยังหายใจอยู่ ถ้าน้ำจะมาอีกนั่นเป็นเรื่องอนาคต เป็นปัญหาที่ยังไม่เกิด ยังไม่ต้องไปเป็นทุกข์ล่วงหน้ากับมัน
การรื้อสวนที่ทรุดโทรมพังพินาศ ยากเย็นแสนเข็ญกว่าการจัดสวนที่สร้างใหม่ในบ้านหลังใหม่ไม่รู้กี่เท่า
ฉันเกือบจะทิ้งจั๋งญี่ปุ่นสองกอนั้นไปแล้ว เพราะดูเหมือนมันจะทรุดโทรมหนัก ไม่เข้าที่เข้าทางกับมุมใดเลยในบ้าน แต่ด้วยความสงสารจึงเก็บเอาไว้เช่นเดียวกับต้นไม้ที่เหลือรอดมาจากน้ำท่วมอื่นๆมิได้ถูกทอดทิ้งแม้แต่ต้นเดียว เพียงแค่ย้ายตำแหน่งมันบ้าง และเปลี่ยนจากกระถางไปลงดิน
 สวนใหม่แบ่งต้นไม้ออกเป็นกลุ่มย่อยหลากหลายแนบไปกับทางเดินรอบบ้าน และในที่สุดจั๋งกอนั้นก็พบที่ทางของมันใต้ต้นปีบ รวมกลุ่มอยู่กับหมู่ไม้หลายชนิดที่ฉันชอบ โดยเฉพาะแก้วเจ้าจอม
หลังจากจัดระเบียบต้นไม้เรียบร้อย ฉันไปเชียงใหม่ ได้นั่งกินขนมที่ ร้านหวานละมุน และคุยกับเจ้าของร้าน เธอทำสิ่งมหัศจรรย์ที่แสนงามให้ชม
ถอดเสื้อให้ต้นจั๋ง
 ...


ถ้าคุณรู้จักและคุ้นเคยกับจั๋งอยู่แล้ว ก็จะนึกภาพออกว่า จั๋งมีลักษณะเป็นปาล์มขนาดเล็กใบมีสีเขียวเข้มเป็นมันรูปพัด มีใบย่อยแตกออกจากกันเป็นแฉกลึกยาว ลำต้นเป็นกอคล้ายกอไผ่สูงประมาณ 3 - 5 เมตร(ขึ้นอยู่กับว่าเลี้ยงในอาคารหรือนอกอาคาร) ขนาดลำต้นเท่าหัวแม่มือหรือใหญ่กว่าเล็กน้อย แข็ง เหนียวคล้ายหวาย มีแผ่นใบหยาบๆ สีน้ำตาลเข้มคลุมบาง ๆ เป็นตาข่ายละเอียดยิบทั่วลำ
แผ่นใบหยาบสีน้ำตาลนี่เองที่เป็นเสื้อของต้นจั๋ง แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ใส่ใจกับมัน เมื่อใบจั๋งด้านล่างแก่จัดและแห้งกรอบก็มักจะปล่อยทิ้งให้กาบใบนี้คลุมลำต้นอยู่ต่อไป ทำให้กอจั๋งกลายเป็นสีน้ำตาลไม่น่าชม และกาบห่อลำต้นนี้ยังเป็นที่เก็บฝุ่นไว้อย่างแน่นหนา
เพียงใช้มือหนึ่งจับที่ลำต้น อีกมือหนึ่งกำลำข้อตรงกาบใบนั้นบิดแรงๆ จนกาบใบหลุดออกแล้วรูดลง จากนั้นฉีกเยื่อหุ้มออกจนเกลี้ยงเกลา
ผิวพรรณนวลละออแท้จริงของต้นจั๋งอยู่ใต้เสื้อสีน้ำตาลตัวนั้น เปิดเผยลำต้นตรงสูงชะลูด เห็นข้อปล้องชัดเจนเหมือนลำไผ่ แต่มีเสน่ห์มากกว่าตรงที่ข้อลำเหล่านั้นไม่ได้ยาวสม่ำเสมอกันทั่วลำต้น สั้นบ้างยาวบ้าง แล้วแต่จังหวะความงามของใบที่งอกใหม่แต่ละครั้ง
ฉันถอดเสื้อให้จั๋งจนครบทุกลำ และพบว่า ตรงโคนต้นที่ถอดเสื้อทิ้งไว้นานกว่าด้านบนเริ่มกลายสีเป็นเขียวอ่อนและเข้มขึ้นเรื่อย ไล่จังหวะมาจนถึงสีขาวครีมในส่วนปลายยอดที่เพิ่งถอดเสื้อใหม่ๆ
ความงามอัศจรรย์ใจเกิดขึ้นเบื้องหน้าเราแทบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ไม้พิการที่ฉันเกือบจะโยนทิ้ง กลายมาเป็นราชินีแห่งไม้ในสวนมุมนั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ความอิ่มใจ ความสุขใจ เอ่อท้น ...
ฉับพลันนั้นฉันก็พบว่า ต้นไม้และสีเขียวเหล่านี้ต่างหากที่กำลังเยียวยาชีวิตเรา หาใช่เงินหมื่นสองหมื่นบาทของรัฐบาลที่กำลังฟาดใส่หัวราษฎรเหยื่อน้ำท่วมอยู่ในเวลานี้!?

....


  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น