วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ชีวิตจริงของนักเขียนฟรีแลนซ์

                                ชีวิตจริงของนักเขียนฟรีแลนซ์
                                                          
                                                               ......

หนังสือเล่มล่าสุดของตัวเอง...ที่ลิขสิทธิ์ไม่ใช่ของตัวเอง เพราะเป็นงานที่รับทำให้หน่วยราชการ

ในที่สุดก็ค้นพบด้วยตัวเองว่า จะเป็นนักเขียนฟรีแลนซ์ที่ไม่ลำบากยากเข็ญนั้นต้องมีวินัยสูงมาก
ลำดับแรกต้องคิดถึงองค์ประกอบสำคัญที่จะต้องมีให้ได้ คือ

๑ งานเขียนประจำ เช่น คอลัมน์ต่างๆ ในนิตยสารซึ่งต้องมีปริมาณชิ้นมากพอสำหรับให้มีรายได้หลักในการใช้จ่ายเพื่อเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต(แต่เรื่องนี้ไม่ง่ายเพราะพื้นที่ในนิตยสารต่างๆมีไม่มากพอที่จะให้นักเขียนฟรีแลนซ์ไปเบียดไหล่ชิงซีนกันในนั้น ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครยอมเปิดพื้นที่ให้ใครอยู่แล้ว)

เขียนเรื่องราวของลุงปาละไว้ในหนังสือแล้ว ยังต้องการประสบการ์ณจริงและวัตถุดิบเพิ่มเอาไปเขียนคอลัมน์ เลยต้องบุกบ้านลุงอีกรอบไปตำกาแฟกัน


๒ งานโครงการพิเศษอื่นที่ทำให้มีรายได้เป็นก้อนใหญ่ๆ ในลักษณะทำงานปีนี้เพื่อให้เพียงพอสำหรับการใช้จ่ายในปีหน้า ไม่ใช่ทำไปใช้ไป เป็นต้นว่า มีหนังสือรวมเล่ม ทุกปี มีนิยาย หรือรวมเรื่องสั้นออกมาอย่างประจำ สม่ำเสมอ หรือมีงานรับจ้างเขียนแพงๆ(นี่ก็ไม่ง่ายเลยนะ เพราะถ้าไม่มีต้นทุนจากการทำงานที่สั่งสม สร้างการยอมรับจนเป็นที่เชื่อถือ มีคนนิยม หรือไม่มีจุดเริ่มต้นดีๆที่จะสานต่อได้คุณก็จะไม่มีทางไปเลย)


บ้านที่พ่อสร้าง : แม่ฮ่องสอน แผ่นดินแห่งความสุขและความงาม  กำลังคิดว่าจะขออนุญาตนำมาพิมพ์จำหน่าย


หากปราศจากสองสิ่งนี้ ก็จะต้องมีอีกอย่างที่สำคัญมากเช่นกัน คือ
๓ มรดกพกห่อ ที่จะอุ้มชูดูแลชีวิตไปให้ตลอดรอดฝั่ง
และอย่าได้เข้าใจว่าการเป็นฟรีแลนซ์ คืออิสรภาพสุดแสนเสรีที่จะโบยบินไปในโลกกว้างล่ะ ฟรีแลนซ์ที่ทำงานหนักไม่สามารถลอยชายไปไหนต่อไหนได้แบบไม่จำกัดหรอกนะ และในแต่ละวันก็ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรตามใจฉันได้เสมอไป
อยากพิมพ์เผยแพร่ เพื่อคนจะได้รู้เรื่องราวแม่ฮ่องสอนในฐานะ King's Model Projects

ฟรีแลนซ์ที่ดี จะมีตารางการงานเฉพาะเจาะจงที่บีบคั้นตัวเองมากกว่าตอนนั่งทำงานประจำเสียอีก ไม่ได้มีเวลามากมายคอยมาไล่อ่านเฟซบุ๊คและเล่นสนุกไปวันๆเลยนะ โซเชียลมีเดียนั้นมีไว้ผ่อนคลาย พักสายตาจากการงานเท่านั้นเอง

ชีวิตจริงของฟรีแลนซ์ สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดีที่สุด...ห้ามป่วย ห้ามเสียสติ เพราะการเจ็บป่วยจะทำให้เงินทองอันน้อยนิดที่ค่อยๆเก็บสะสมมาได้เหมือนตุ่มรองรับน้ำทีละหยดเล็กๆ ซึ่งใช้เวลาและความอดทนอย่างยิ่งกว่าน้ำหยดน้อยจะเต็มตุ่ม พอคุณป่วยจะกลายเป็นว่าต้องเทน้ำในตุ่มที่อุตส่าห์เก็บสะสมมาทิ้งไปหมด...ให้กับโรงพยาบาล

ขอบคุณศิลปินทุกท่านที่ช่วยให้งานเปิดตัวหนังสือ "บ้านที่พ่อสร้าง" ผ่านพ้นไปได้เรียบร้อย

ดังนั้น... ตื่นเช้าขึ้นมาทุกวันต้องนึกถึงการออกกำลังกายเป็นอย่างแรก   
หลังจากนั้นทุกคนก็จะมีภารกิจส่วนตัวเหมือนกันหมด ในการดูแลบ้าน สวน อาหารการกิน และดูแลคนในครอบครัว
สุดท้าย...กว่าคุณจะได้อาบน้ำแต่งตัวมานั่งทำงาน บางวันอาจสายมาก...และบางวันไม่มีโอกาสนั้นเลย เพราะติดนัดหมายนอกบ้าน แต่ส่วนใหญ่ถ้าคุณอยู่กับครอบครัว ภารกิจที่ดึงเวลาทำงานของคุณไปมากมายก็คือภารกิจที่เกี่ยวพันกับคนในครอบครัวนั่นเอง
 
พยายามบอกตัวเองว่านี่เป็นการเดินออกกำลังกายนะ อิอิ

นั่นยังไม่เท่ากับปัญหาที่ว่า เมื่อคุณพร้อมมานั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วคุณยังเขียนอะไรไม่ออกเลยสักตัว ในขณะที่เสียงโทรศัพท์ทวงต้นฉบับดังขึ้นถี่ๆ ไหนจะกังวลกับงานโปรเจ็กต์ที่มีตารางกำกับว่าจะต้องทำให้เสร็จภายในกำหนดเวลาคอยเร่งอยู่ ไหนจะงานเขียนในฝันที่อยากทำแต่ไม่ได้ลงมือทำเสียทีเพราะมีเรื่องด่วนอื่นๆมาคอยขัดจังหวะอยู่เรื่อย
และเมื่อคุณเลือกพักสายตาด้วยเรื่องราวของเพื่อนๆในเฟซบุ๊ค...คุณก็จะลืมตัวลืมเวลาไปเลยว่ากำลังทำอะไรคั่งค้างอยู่ งานวันนั้นจึงอาจจะไม่เสร็จ และมันถูกเลื่อนให้ไปกินเวลาของงานในวันรุ่งขึ้นที่วางแผนไว้แล้ว


ไปเที่ยวถ้ำกับศิลปิน เลยได้ภาพเด็ดๆ มุมนี้

แน่นอน...มันทำให้คุณเบื่อและท้อถอยได้ง่าย...สุดท้ายคุณหาทางออกด้วยการผ่อนคลายในแบบที่คุณชอบ คือ การดื่มกินและท่องเที่ยว
นัดหมายกับเพื่อนถูกคอบ่อยๆ บางเวลาก็ไปนั่งชิลตามร้านอาหารที่ชอบ แสวงหาความตื่นเต้นในชีวิต ทำอะไรแปลกๆ เพื่อสร้างแหล่งวัตถุดิบใหม่(ที่มีเยอะแต่ไม่ค่อยได้เขียน) และส่วนใหญ่คุณจะสิ้นเปลืองมากกับการหาเรื่องไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในต่างจังหวัดและต่างประเทศ
เมื่อคิดอะไรไม่ออกและทำงานไม่ทัน คุณจะกิน กิน กิน ...กินจนน้ำหนักขึ้น ขึ้น ขึ้น และคุณก็จะท้อถอยในการออกกำลังกายเพราะเดิมการออกกำลังกายของคุณเป็นกิจกรรมเพื่อทำให้สุขภาพดี บัดนี้กลายเป็นภารกิจที่จะต้องพิชิตน้ำหนักลงให้ได้

ปลาพยูนเสื้อเหลืองพุงหลามน่าเกลียดขึ้นทุกวัน...โอ๊ยยย ทนดูตัวเองไม่ไหว


โอ้...พระเจ้า โลกนี้ตอบแทนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันเสมอ
บันทึกเรื่องราวนี้ไว้ในวันที่ต้องเริ่มต้นราวีกับไขมันอีกรอบ

...

สุมิตรา จันทร์เงา
๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

#ไม่ยอมแพ้แม้จะรู้สึกแย่มาก
#ไขมันที่รักโปรดปล่อยฉันไป




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น