“ความลับ”
ก่อนที่เขาจะแต่งงานกับเพื่อนรักของฉัน
เราไม่เคยแตะต้องกันแม้แต่ปลายก้อย
กระทั่ง ๑๐ ปีผ่านไปอุบัติเหตุสำคัญคราวนั้นทำให้เขาสูญเสียความทรงจำไปในห้วงขณะสั้นๆ
และทำให้ฉันได้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา
คุณคิดว่าฉันคงเป็นผู้หญิงร้ายกาจที่พร้อมจะแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยรักมาจากเพื่อนใช่ไหม
คุณคิดว่าผู้ชายที่สูญเสียความทรงจำไปแล้วคนนั้นคงจะตอบรับอ้อมแขนของฉันใช่หรือเปล่า...และเพื่อนรักตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาลคงต้องเจ็บปวดมากมายกับสิ่งที่ฉันได้กระทำกับเธอใช่ไหม?
มันเป็นกอดครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตของเรา เป็นกอดเดียวที่เราต่างมีให้กัน
กอดนั้นยาวนานที่สุด
เปี่ยมล้นด้วยความรู้สึกสารพันที่ฉันและเขาไม่อาจเอ่ยออกมาเป็นคำพูด
ฉันรู้สึกได้ถึงหัวใจสองดวงที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกันในยามที่เราต่างกระชับอ้อมกอดแนบสนิท
ให้หัวใจเคียงคู่อยู่ข้างๆกันเช่นนั้น
ฉันเห็นแววตานั่นฉายภาพหัวใจของเขาออกมาเป็นบทกวีที่คล้ายตัวอักษรแสนสวยกำลังเต้นรำอยู่ในพรายแดดสีทองของยามเย็น
เป็นกอดที่ปลุกเขาให้ฟื้นตื่นจากการนอนหลับฝันยาวนาน
คืนสู่โลกของการเยียวยารักษา คืนกลับมาสู่ชีวิตที่เขาคุ้นเคยอีกครั้งพร้อมกับความทรงจำใหม่ที่ทำให้เขากลายเป็นคนอื่น
...และสิ่งนี้ทำให้เพื่อนรักของฉันโศกเศร้า
คุณเคยมีชิ้นส่วนของชีวิตที่ขาดหายไปไหม...มันอาจไม่ใช่ชิ้นส่วนสำคัญ
ถึงไม่มีมันชีวิตของคุณก็ยังดำรงอยู่ได้ สามารถดำเนินไปเป็นปกติ ไม่ได้ขาดตกบกพร่องไปหรือมีสิ่งใดให้มองเห็นรอยตำหนิ
แล้วจู่ๆ วันหนึ่งชิ้นส่วนที่เคยหายไปนั้นกลับมาอยู่ตรงหน้าให้คุณได้กลับมาซ่อมแซมชีวิต...
แต่คำตอบไม่ใช่เรื่องหนึ่งบวกหนึ่งเป็นสองเสมอไปเพราะมนุษย์เป็นสัตว์ที่ซับซ้อน
สมองของพวกเขามีเรื่องให้เรียนรู้อยู่ไม่จบสิ้น
หลังจากนั้นฉันได้แต่เฝ้ามองเขาห่างๆ
ราวกับเราเป็นดวงดาวคนละกาแล็กซี่ ห่างไกลกันหลายล้านๆๆๆ ปีแสง
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องราวของความรัก
ความพิศวาส ความหลงใหลใฝ่ฝัน หรือการทรยศหักหลัง แต่มันเป็นความรู้สึกงดงามพิเศษสุดของความสัมพันธ์ที่ผู้หญิงกับผู้ชายจะมีให้กัน
เส้นขนานในชีวิตเราไม่มีวันที่จะถึงจุดบรรจบกันได้
เพราะเราต่างยืนอยู่ในแสงสปอตไลท์ของความสำเร็จที่สาดส่องจ้องมองจากสังคมและผู้คนซึ่งเราอาจไม่จำเป็นต้องไปแคร์สักนิดเลยก็ได้
แต่...แต่ชีวิตไม่ได้ง่ายแบบนั้น
ทุกวัน...ตอนเช้าตรู่ที่ออกไปเดินเล่นริมแม่น้ำ
ฉันใช้เวลาอันแสนงามนี้ครุ่นคิดถึงแต่เขา เฝ้ามองความเป็นไปรายรอบ
เรื่องของหุ้นส่วนธุรกิจ งานใหม่ๆ ผู้หญิงน่าสนใจแต่ละคนที่ผ่านเข้ามา และภรรยาผู้ไร้สุขที่เป็นเพื่อนรักของฉัน
เฝ้าติดตามจับจ้องมองดูสิ่งที่เขาทำ
ชื่นชมความสำเร็จรุ่งเรืองที่เขาสร้างสรรค์ไว้ภายใต้เกียรติยศชื่อเสียงเงินทอง มีความรู้สึกทั้งอยากเขาไปใกล้และวิ่งหนีไปให้ไกลแสนไกลในเวลาเดียวกัน
จนบัดนี้เราต่างร่วงโรย... ฉันยังเฝ้าแต่จินตนาการว่าเมื่อตื่นขึ้นมาทุกเช้าเขายังได้มองเห็นฉันบนจอคอมพิวเตอร์
และอาจมีบางข้อความของฉันผ่านตาเขาไปให้ได้ถอดรหัส...
ทุกคนต่างมีความลับใช่ไหม ความลับเล็กๆ
ระหว่างเราคือความเกลียดชังที่เราต่างถมใส่มันเข้าไปเพื่อเราจะได้ไม่ต้องได้มาอยู่ด้วยกัน
แต่ถ้าคุณไม่เคยรักเลย...คุณจะเกลียดคนๆนั้นได้อย่างไรกัน
ฉันยังจำได้บทสนทนาในวันนั้นก่อนที่เขาจะตัดสินใจแต่งงาน
“ผมกลัวคุณจังเลย...”
“ทำไมจะต้องกลัวด้วย คุณกลัวอะไร”
“ผมเห็นสิ่งที่อยู่ในดวงตาคุณ
มันเหมือนกับตัวตนของผม”
“ไม่ดีหรือที่เราต่างเป็นเราในตัวตนของอีกคน...”
“จะดีได้ยังไง...ผมยังอยากเป็นผม
คุณก็ยังอยากเป็นคุณ และเราต่างก็เป็นคนร้ายกาจ เรารู้จักกันทุกซอกทุกมุม
รู้ทันกันทุกสิ่งอย่าง”
“....? แล้วมันผิดยังไง”
“ถามจริงๆ
แบบนี้คุณจะมีความสุขหรือ...เราต่างเป็นน้ำที่เต็มแก้วไปแล้ว”
“ฉันเกลียดคุณ”
เขาพูดถูก...เรารู้จักกันดีเกินไปจนไม่อาจใช้ชีวิตด้วยกัน...ความสัมพันธ์แบบคู่ชีวิตต้องการช่องว่างให้เราได้ช่วยกันเติมเต็ม
ระหว่างนั้นก็คอยเจาะรูรั่วเล็กๆไปเรื่อยพอให้น้ำซึม เราจะยังได้มีที่ว่างให้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายอยู่เสมอ
“เกลียดผมไปเถอะแต่อย่าได้ผลักไสผมให้ไปไกลจากคุณนัก
ผมยอมให้คุณเกลียดแต่ขออยู่ใกล้ๆคุณแบบนี้ได้ไหม
ให้คุณได้เกลียดผมอย่างที่คุณต้องการ
และให้ผมได้มองเห็นความสุขจากความเกลียดชังของคุณในเวลาเดียวกัน”
ฉันยังอยากให้เขาสนุกกับสิ่งที่ฉันเขียน
อยากให้เขาขุดคุ้ยตีความถอดรหัสสิ่งอยู่ซ่อนอยู่ใต้บรรทัด ซ้อนทับหลายๆชั้นอยู่ในตัวอักษรที่ต้องอ่านใหม่ จากซ้ายไปขวาบ้าง
จากบนลงล่าง หรือแม้แต่การอ่านข้ามบรรทัดให้เป็นเรื่องราวใหม่ของเรา
นี่คือความสุขเล็กๆ ฉันรู้...เราต่างรู้สึกดีที่เป็นแบบนี้
มันเป็นหนทางเดียวที่จะอยู่กับมันได้โดยไม่มีใครสูญเสียตัวตน ตลอดเวลาตราบสิ้นลมหายใจ
....
สุมิตรา จันทร์เงา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น