วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559

เรื่องสั้น “ความลับ”

“ความลับ”

ก่อนที่เขาจะแต่งงานกับเพื่อนรักของฉัน เราไม่เคยแตะต้องกันแม้แต่ปลายก้อย

กระทั่ง ๑๐ ปีผ่านไปอุบัติเหตุสำคัญคราวนั้นทำให้เขาสูญเสียความทรงจำไปในห้วงขณะสั้นๆ และทำให้ฉันได้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา

คุณคิดว่าฉันคงเป็นผู้หญิงร้ายกาจที่พร้อมจะแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยรักมาจากเพื่อนใช่ไหม  

คุณคิดว่าผู้ชายที่สูญเสียความทรงจำไปแล้วคนนั้นคงจะตอบรับอ้อมแขนของฉันใช่หรือเปล่า...และเพื่อนรักตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาลคงต้องเจ็บปวดมากมายกับสิ่งที่ฉันได้กระทำกับเธอใช่ไหม?

มันเป็นกอดครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตของเรา เป็นกอดเดียวที่เราต่างมีให้กัน

กอดนั้นยาวนานที่สุด เปี่ยมล้นด้วยความรู้สึกสารพันที่ฉันและเขาไม่อาจเอ่ยออกมาเป็นคำพูด

ฉันรู้สึกได้ถึงหัวใจสองดวงที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกันในยามที่เราต่างกระชับอ้อมกอดแนบสนิท ให้หัวใจเคียงคู่อยู่ข้างๆกันเช่นนั้น

ฉันเห็นแววตานั่นฉายภาพหัวใจของเขาออกมาเป็นบทกวีที่คล้ายตัวอักษรแสนสวยกำลังเต้นรำอยู่ในพรายแดดสีทองของยามเย็น

เป็นกอดที่ปลุกเขาให้ฟื้นตื่นจากการนอนหลับฝันยาวนาน  คืนสู่โลกของการเยียวยารักษา คืนกลับมาสู่ชีวิตที่เขาคุ้นเคยอีกครั้งพร้อมกับความทรงจำใหม่ที่ทำให้เขากลายเป็นคนอื่น ...และสิ่งนี้ทำให้เพื่อนรักของฉันโศกเศร้า

คุณเคยมีชิ้นส่วนของชีวิตที่ขาดหายไปไหม...มันอาจไม่ใช่ชิ้นส่วนสำคัญ ถึงไม่มีมันชีวิตของคุณก็ยังดำรงอยู่ได้ สามารถดำเนินไปเป็นปกติ  ไม่ได้ขาดตกบกพร่องไปหรือมีสิ่งใดให้มองเห็นรอยตำหนิ

แล้วจู่ๆ วันหนึ่งชิ้นส่วนที่เคยหายไปนั้นกลับมาอยู่ตรงหน้าให้คุณได้กลับมาซ่อมแซมชีวิต...

แต่คำตอบไม่ใช่เรื่องหนึ่งบวกหนึ่งเป็นสองเสมอไปเพราะมนุษย์เป็นสัตว์ที่ซับซ้อน สมองของพวกเขามีเรื่องให้เรียนรู้อยู่ไม่จบสิ้น

หลังจากนั้นฉันได้แต่เฝ้ามองเขาห่างๆ ราวกับเราเป็นดวงดาวคนละกาแล็กซี่ ห่างไกลกันหลายล้านๆๆๆ ปีแสง

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องราวของความรัก ความพิศวาส ความหลงใหลใฝ่ฝัน หรือการทรยศหักหลัง แต่มันเป็นความรู้สึกงดงามพิเศษสุดของความสัมพันธ์ที่ผู้หญิงกับผู้ชายจะมีให้กัน

เส้นขนานในชีวิตเราไม่มีวันที่จะถึงจุดบรรจบกันได้ เพราะเราต่างยืนอยู่ในแสงสปอตไลท์ของความสำเร็จที่สาดส่องจ้องมองจากสังคมและผู้คนซึ่งเราอาจไม่จำเป็นต้องไปแคร์สักนิดเลยก็ได้

แต่...แต่ชีวิตไม่ได้ง่ายแบบนั้น

ทุกวัน...ตอนเช้าตรู่ที่ออกไปเดินเล่นริมแม่น้ำ ฉันใช้เวลาอันแสนงามนี้ครุ่นคิดถึงแต่เขา เฝ้ามองความเป็นไปรายรอบ เรื่องของหุ้นส่วนธุรกิจ งานใหม่ๆ ผู้หญิงน่าสนใจแต่ละคนที่ผ่านเข้ามา และภรรยาผู้ไร้สุขที่เป็นเพื่อนรักของฉัน  

เฝ้าติดตามจับจ้องมองดูสิ่งที่เขาทำ ชื่นชมความสำเร็จรุ่งเรืองที่เขาสร้างสรรค์ไว้ภายใต้เกียรติยศชื่อเสียงเงินทอง มีความรู้สึกทั้งอยากเขาไปใกล้และวิ่งหนีไปให้ไกลแสนไกลในเวลาเดียวกัน

จนบัดนี้เราต่างร่วงโรย... ฉันยังเฝ้าแต่จินตนาการว่าเมื่อตื่นขึ้นมาทุกเช้าเขายังได้มองเห็นฉันบนจอคอมพิวเตอร์ และอาจมีบางข้อความของฉันผ่านตาเขาไปให้ได้ถอดรหัส...

ทุกคนต่างมีความลับใช่ไหม ความลับเล็กๆ ระหว่างเราคือความเกลียดชังที่เราต่างถมใส่มันเข้าไปเพื่อเราจะได้ไม่ต้องได้มาอยู่ด้วยกัน

แต่ถ้าคุณไม่เคยรักเลย...คุณจะเกลียดคนๆนั้นได้อย่างไรกัน

ฉันยังจำได้บทสนทนาในวันนั้นก่อนที่เขาจะตัดสินใจแต่งงาน
“ผมกลัวคุณจังเลย...”
“ทำไมจะต้องกลัวด้วย คุณกลัวอะไร”
“ผมเห็นสิ่งที่อยู่ในดวงตาคุณ มันเหมือนกับตัวตนของผม”
“ไม่ดีหรือที่เราต่างเป็นเราในตัวตนของอีกคน...”
“จะดีได้ยังไง...ผมยังอยากเป็นผม คุณก็ยังอยากเป็นคุณ และเราต่างก็เป็นคนร้ายกาจ เรารู้จักกันทุกซอกทุกมุม รู้ทันกันทุกสิ่งอย่าง”
“....? แล้วมันผิดยังไง”
“ถามจริงๆ แบบนี้คุณจะมีความสุขหรือ...เราต่างเป็นน้ำที่เต็มแก้วไปแล้ว”
“ฉันเกลียดคุณ”

เขาพูดถูก...เรารู้จักกันดีเกินไปจนไม่อาจใช้ชีวิตด้วยกัน...ความสัมพันธ์แบบคู่ชีวิตต้องการช่องว่างให้เราได้ช่วยกันเติมเต็ม ระหว่างนั้นก็คอยเจาะรูรั่วเล็กๆไปเรื่อยพอให้น้ำซึม เราจะยังได้มีที่ว่างให้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายอยู่เสมอ

เกลียดผมไปเถอะแต่อย่าได้ผลักไสผมให้ไปไกลจากคุณนัก ผมยอมให้คุณเกลียดแต่ขออยู่ใกล้ๆคุณแบบนี้ได้ไหม ให้คุณได้เกลียดผมอย่างที่คุณต้องการ และให้ผมได้มองเห็นความสุขจากความเกลียดชังของคุณในเวลาเดียวกัน

ฉันยังอยากให้เขาสนุกกับสิ่งที่ฉันเขียน อยากให้เขาขุดคุ้ยตีความถอดรหัสสิ่งอยู่ซ่อนอยู่ใต้บรรทัด ซ้อนทับหลายๆชั้นอยู่ในตัวอักษรที่ต้องอ่านใหม่ จากซ้ายไปขวาบ้าง จากบนลงล่าง หรือแม้แต่การอ่านข้ามบรรทัดให้เป็นเรื่องราวใหม่ของเรา

นี่คือความสุขเล็กๆ  ฉันรู้...เราต่างรู้สึกดีที่เป็นแบบนี้ มันเป็นหนทางเดียวที่จะอยู่กับมันได้โดยไม่มีใครสูญเสียตัวตน ตลอดเวลาตราบสิ้นลมหายใจ

....

สุมิตรา จันทร์เงา





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น